น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นอช.เขื่อนศรีนครินทร์
ซึ่งแต่แรกก็ไม่ได้คิดจะไปแค่สองคนหรอกครับ
แต่ทำไปทำมา เพื่อนฝูงติดธุระกันหมด
แถมบางคนก็ยังคงถูกน้ำท่วมบ้าน
หรือไม่ก็ซ่อมแซมบ้านหลังจากน้ำเพิ่งลดไป
แต่เราสองคนก็ยังคงตั้งเป้าหมายไว้แล้ว
เลยตัดสินใจว่าจะไปกันสองคนนี่แหละ ก็ตั้งใจไว้แล้วนี่
ทริปนี้เริ่มจากตอนเช้ามืด ขับรถมาถึงปั๊มบางจาก นาเกลือพระราม2
ก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าแม่กลองนิดเดียว อาจจะสงสัยว่า
จะไปกาญจนบุรี ทำไมถึงต้องมาทางนี้ ต้องอย่าลืมว่า วันนั้น
น้ำยังคงท่วมถนนเพชรเกษมอยู่เลยครับ เลยต้องอ้อมมาทางแม่กลอง
คนอื่นๆเขามักจะเลี่ยงไปวิ่งเส้นกระทุ่มแบน
แต่ผมไม่เอาด้วยหรอก รถติดมาก แถมทางยังพังยับเยินอีก
มาทางแม่กลองนี่แหละ แล้วค่อยขึ้นไปออกเพชรเกษม
ทางโล่ง เรียบ สภาพดี ขับรถง่ายสบาย
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่วิ่งมาทางนี้ก็เพราะ
จะได้แวะตลาดแม่กลองซื้ออาหารทะเลไปทำกินในป่าด้วย ^^
ออกจากปั๊มบางจาก ไม่กี่นาทีก็มาถึงตลาดแม่กลอง
เดินเข้าไปตามทางรถไฟ ก็จะพบกับอาหารทะเลสดๆ
ที่มีให้เลือกมากมาย อย่างที่เห็นในภาพนั้นเป็นฉลาม
แต่ไม่ได้ซื้อมานะครับ ถ่ายมาให้ดูกันเฉยๆ
เราเดินอยู่ไม่นานก็ได้กุ้งลายเสือและปลาหมึกสดอย่างละ
ครึ่งกิโล เครื่องปรุงต่างๆ เช่น เครื่องต้มยำก็หาซื้อจากที่นี่ได้
ตลาดนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “ตลาดร่มหุบ”
เพราะวางขายกันริมทางรถไฟ เมื่อใดที่รถไฟวิ่งมา
พ่อค้าแม่ขายก็ต้องหุบร่ม เก็บของให้พ้นทาง
รายการทีวีหลายรายการมาถ่ายทำ
เลยทำให้นักท่องเที่ยวมากขึ้นไปด้วย
และไม่ทราบว่าด้วยเหตุนี้หรือเปล่าจึงทำให้ราคาของสดในตลาดนี้
ไม่ได้ถูกมากเหมือนอย่างเดิมที่พวกเราเคยมาซื้อกัน
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะถึงราคาจะขยับขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังนับว่าไม่แพงอยู่ดี จับจ่ายซื้อของกันแล้ว
เราก็ออกเดินทางยังจุดหมายต่อไป “ตลาดโพธาราม”
ถ้าดูจากแผนที่แ้ล้ว เมื่อเราเดินทางจากแม่กลอง
ขึ้นมาถึงถนนเพชรเกษม ถ้าจะไปกาญจนบุรี
ก็ต้องผ่านบ้านโป่ง ทีนี้การจะไปบ้านโป่ง
ก็มีทางเลือกสองทางคือ กลับเข้าถนนเพชรเกษม
หรือไม่ก็วิ่งตรงเข้าโพธาราม แล้วค่อยไปบ้านโป่ง
เราเลือกทางไปผ่านโพธารามครับ
เพื่อที่จะได้แวะตลาดโพธารามไปด้วย
และเหตุที่ต้องผ่าน “ตลาดโพธาราม” ก็เพราะว่า
ตลาดเช้าต่างจังหวัด เป็นเสน่ห์ของการเดินทางอย่างหนึ่ง
เพราะการเยี่ยมตลาดเช้าของแต่ละท้องถิ่น
เราจะได้เห็นได้รู้ได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนั้นๆ
ผ่านทาง ของกิน ของซื้อ ของขาย ที่อยู่ในตลาดนั่นเอง
ตลาดวันนี้ก็ดูคึกคักถึงเป็นวันศุกร์ ผู้คนก็ยังมากันไม่น้อย
เราสองคนเดินไปทั่วๆก็พบกับร้านขายขนมร้านหนึ่ง
มีคนมุงซื้อกันจนแน่นรถเข็น ชะโงกไปดูก็พบว่า
เป็นขนมที่ไม่เคยเห็นที่อื่น ถามได้ความว่าเป็นขนมหัวผักกาด
แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนขนมหัวผักกาดที่ผมเคยกินครับ
หน้าตาของขนมผักกาดที่นี่ จะเป็นแบบในภาพ
ผมลองซื้อชิมดูแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “อร่อย”
ใครไปโพธาราม แวะเข้าตลาดเช้า
หารถเข็นขายขนมคันที่คนมุงกันเยอะๆนั่นแหละครับ
จริงๆแล้วผมเคยมาที่โพธารามเป็นครั้งที่สอง
ครั้งก่อนนั้นมาซื้อไม่ทัน เห็นครั้งแรกคนเยอะ
เลยคิดว่าเดินไปก่อน กลับมาค่อยแวะซื้อที่ไหนได้
เดินกลับมาเกลี้ยงแล้ว ขายดีจริงๆ ก็คนซื้อแน่นขนาดนั้น ไม่มีจังหวะถ่ายรูปเลย
รูปประกอบรูปนี้ ผมจึงต้องไปหยิบมาจากแฟนเพจ “อย่าลืมโพธาราม” ครับ
ตลาดเก่าส่วนมากมักจะมีทำเลตั้งอยู่ริมน้ำ
เพราะเป็นเส้นทางสัญจรของคนไทยโบราณ
ที่โพธารามนี่ก็เหมือนกันครับ
ด้านหลังตลาดจะเป็นแม่น้ำไหลผ่าน
และแล้วผมก็ได้ความคิดอีกอย่างขึ้นมาในหัว
ก็แม่น้ำแควที่ไหลมาจากกาญจนบุรีน่ะ
เป็นแม่น้ำเดียวกับแม่น้ำแม่กลองนี่ครับ
ที่กาญฯเรียกแม่น้ำแคว ไหลผ่านราชบุรี
ก็เรียกแม่น้ำราชบุรี พอถึงแม่กลอง
ก็เป็นแม่น้ำแม่กลอง
ทีนี้ถ้าผมขับรถเลียบแม่น้ำขึ้นไปเรื่อยๆ มันก็ต้องไปถึงเมืองกาญฯได้แน่ๆ คิดแล้วก็เปิดแผนที่ อ๊ะ จริงๆอย่างที่คิดไว้ครับ เลียบแม่น้ำย้อนขึ้นไปจะเป็นบ้านโป่ง แล้วพอเลยบ้านโป่งไปก็เป็นกาญฯ ก็เลยเกิดความคิดใหม่ว่า เราจะข้ามแม่น้ำไปก่อน แล้วค่อยไปขับรถเลียบไปทางฝั่งโน้น เพราะเห็นจากแผนที่ว่าจะผ่าน “โบราณสถานพงตึก” และเป็นทางเลียบแม่น้ำ น่าจะมีอะไรสวยๆให้ได้ดูข้างทางเพลินๆ ว่าแล้วก็ขับรถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำไปอีกฟากทันที ลงจากสะพานเลี้ยวขวา วิ่งเลียบน้ำไปเรื่อยๆ ผ่านชุมชนบ้าง บางช่วงก็จะเห็นแม่น้ำอยู่ข้างๆ สักพักหนึ่งก็มาถึง พงตึก อยู่ทางซ้ายมือ |
||
จากข้อมูลที่ได้อ่านมา พงตึก เป็นชุมชนโบราณสมัยทวารวดี เป็นจุดพักของกองคาราวาน
มีโบราณสถานที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่สมัย ร.๕ โบราณวัตถุต่างๆจึงถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์
ผ่านพงตึก ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ ก็เกือบถึงตัวเมืองกาญฯแล้ว
ขับต่อมาสักพักหนึ่งก็ถึงเขื่อนศรีนครินทร์ ปากทางเข้าน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
โดยเราสองตั้งใจจะพักทานข้าวกลางวันกันที่นี่
ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าไม่อยากลุยทางลูกรัง
ก็สามารถไปใช้บริการแพได้ครับ
เอารถลงแพ ข้ามอ่างเก็บน้ำ
ไม่ต้องวิ่งทางลูกรังไกลขนาดนี้
แต่เราสองคนเลือกที่จะไม่ลงแพ
เพราะคิดว่าถ้าขับรถไป
ก็จะได้ชมบรรยากาศสองข้างทางไปด้วย
ขับเข้ามาได้สักพัก มองไปข้างทางก็เห็นวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
แต่ อนิจจา ทางที่คิดว่าขับไปจะชิวๆ ดูวิวสวยๆไปเรื่อยๆ กลับไม่เป็นอย่างนั้น
ทางเส้นนี้กำลังถูกดัดแปลงไปเป็นทาง ราดยาง หรือ แอสฟัลท์
รถสิบล้อขนดินวิ่งเข้าออกกันฝุ่นตลบ สภาพทางย่ำแย่มาก
ไม่เหมาะกับรถเล็กเป็นอย่างยิ่ง (ดูยาริสคันข้างหน้าเป็นเยี่ยงอย่าง)
แต่โชคชะตา ก็ยังไม่ได้โหดร้ายไปทั้งหมด เส้นทางบางช่วงก็เป็นทางที่ราดยางเรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้งวิวสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปกันแบบนี้ก็มีสลับกับทางโหดๆเป็นระยะๆ
เมื่อใกล้ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ทางก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ละครับ สวยงามมาก
ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็รีบจัดแจงกางเต๊นท์สำหรับจุดกางเต๊นท์ที่นี่ มีเอกลักษณ์พิเศษ
ไม่เหมือนที่ไหนๆที่เราสองคนเคยไปมาก่อน
อย่างแรกคือ วิวข้างหน้า จะเห็นอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ แต่นั่น ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด
แค่จุดกางเต๊นท์ ที่มีวิวข้างหน้าเห็นอ่างเก็บน้ำ หลายๆที่ก็มี
จุดเด่นอีกอย่างคือ ข้างๆที่ผมกางเต๊นท์เป็นน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นที่ 4 ครับ
เรียกว่านอนไป ฟังเสียงน้ำตก ซ่าๆๆๆ มันช่างสุดยอดจริงๆ
นอนฟังเสียงน้ำไหลไปด้วย ชมวิวอ่างเก็บน้ำไปด้วย
บรรยากาศดีๆแบบนี้มันคุ้มที่จะขับรถมานอนเล่นสักคืนสองคืนไหมละครับ
จัดของ กางเต้นท์ เสร็จเรียบร้อย เสียงน้ำตกดังซ่าๆก็เย้ายวน
ชวนให้ต้องเดินไปดูใกล้ๆ ก็น้ำตกอยู่ห่างจากเตันท์แค่ไม่กี่สิบก้าวแค่นั้น
พอเดินมาดูใกล้ๆแบบนี้ พาให้อยากจะไปดูน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้นเสียวันนั้นเลย
แต่มาคิดอีกที เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรทำ มันก็จะว่างเกินไป
ว่าจะเดินกลับเต้นท์ก็พอดีเหลือบไปเห็นสายรุ้ง!!??
หิวแล้วรีบเดินกลับเต้นท์ งัดเอาอาหารทะเลที่ซื้อจากแม่กลองมาจัดการ
ติดเตาถ่าน แล้วจากนั้นก็เอากุ้งลายเสือตัวใหญ่ขึ้นย่าง เย็นนี้อร่อยแน่ อิอิ
อาหารเย็นวันนี้ก็เสร็จสิ้นด้วยฝีมือของปุ้ม
และแล้วก็จบวัน ด้วยการนั่งกินซีฟู้ด พร้อมชมวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
ที่เห็นนี่ยังไม่หมดนะครับยังมีอีกวันหนึ่ง
อ่านตอนต่อไปได้ที่นี่ครับ (น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เดินเล่นชิลๆ ชมน้ำตกทั้ง ๗ ชั้น)
(ข้างล่างนี้ มีช่องให้ใส่คอมเม้นท์ บล้อกทำมาผิดพลาดตรงไหน ติชม เชิญคอมเม้นท์ได้ครับ)
เคยไปเที่ยวเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ชอบมากๆ น้ำตกสวย เล่นน้ำกันทั้งวัน บรรยากาศดีมาก ไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่ …
. . … ตอนนั้นถนนเป็นลูกรังตลอดเส้น ขากลับลงแพ
ที่เห็นในบล็อกนี่ก็ลูกรังครับ แต่เป็นลูกรังที่กำลังปรับปรุงให้เป็นทางราดยาง เลยเป็นอย่างที่เห็นละครับ จมฝุ่นกันไป สงสารก็แต่พี่คนนึง แกขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าแฟนท่อม แกอุตส่าห์โทรมาถามเจ้าหน้าที่แล้วว่าถ้าจะขี่มอเตอร์ไซค์มาทางไหนได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามาได้สองทาง คือข้ามแพ กับวิ่งทางลูกรัง แกอยากขี่ชมธรรมชาติเลยมาทางลูกรัง ผลคือกว่าจะมาถึง คลุกฝุ่นมาเต็มตัวไปหมด แกก็สงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่บอกแกเรื่องทางที่กำลังก่อสร้างบ้างเลย
ถ้าจะไปปลายปีนี้ อยากรู้ว่า ถนน จะเสร็จยังค่ะ
ผมว่าเสร็จแล้วนะครับ
อยากไปมั่งจังงง
แต่เร็วๆนี้กำลังจะไปเหมือนกัน งานนี้หนุกแน่ๆ*-*
ขอให้สนุกกับทริปนะครับ ^_^
ได้ข่าวว่าทางสายใหม่สร้างเสร็จแล้ว ซิ่งได้เลย แบบชิวๆ
ขอบคุณที่ส่งข่าวครับ
เรื่องที่พักที่กางเต้นท์อ่ะคะ เราต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไหมคะ
และ เรื่องห้องน้ำ + ห้องสุขา สะดวกไหมคะ อยากจะไปบ้างอ่ะค่ะ แต่ว่าพอดีจะมีเจ้าตัวแสบไปด้วย
ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก 3 ขวบไหมคะ
ลองเสิร์ชหาเบอร์โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ
ห้องน้ำสะอาดมาก ส่วนเต๊นท์ ถ้ามีเด็กเล็ก
ลองโทรไปจองเต๊นท์ใหญ่ดีกว่า เต๊นท์ใหญ่มีสภาพไม่ต่างจากบ้านพักเลยครับ เพียงแค่ไม่มีห้องน้ำเท่านั้น
อ้อ พาเด็กๆไป เอาอุปกรณ์ว่ายน้ำไปด้วย พวกห่วงยาง เสื้อชูชีพ ฯลฯ เพราะน้ำตก ชั้น 1 – 2 – 3 น่าเล่นน้ำมาก ขนาดผมยังต้องลงไปว่ายเล่นเลย ถ้าเป็นเด็กๆ เห็นแล้วต้องรบเร้าตื๊อจนคุณพ่อคุณแม่ใจอ่อนแน่นอน
ช่วงนี้อุณหภูมิเท่าไรครับ
อันนี้ไม่ทราบครับ คงต้องถามเจ้าหน้าที่ อช. นะครับ
ผมแค่บันทึกสิ่งที่ผมได้เดินทางมาเมื่อปลายปี 2554
ให้ได้มาอ่านเป็นข้อมูลประกอบของนักท่องเที่ยวท่านอื่นครับ
ห้องน้ำเป็นยังไงบ้างค่ะ มีรูปให้ดูไหมค่ะ
ตอนผมไปเป็นปี 2554 ห้องน้ำสภาพดีกว่าอุทยานอื่นๆ และตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ