เงาพระธาตุกลับหัวอีกแห่งที่วัดพระธาตุจอมปิง

12 กันยายน 2556
หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องเงาพระธาตุกลับหัว ที่ปรากฏในวิหารหลังเล็ก(ซุ้มพระบาท)ของวัดพระธาตุลำปางหลวงมาบ้างแล้ว ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าเป็นการหักเหของแสงผ่านช่องเล็กๆหลักการเดียวกับกล้องรูเข็ม และหลายคนก็เข้าใจว่าเงาพระธาตุกลับหัวมีที่วัดพระธาตุลำปางหลวงเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ยังมีอีกหลายวัดที่มีปรากฏการณ์เงาพระธาตุกลับหัวครับ และวัดพระธาตุจอมปิงก็เป็นหนึ่งในวัดที่มีเงาพระธาตุกลับหัวเช่นกัน และยังไม่หวงห้ามคุณสุภาพสตรีเข้าชมอีกด้วย
บันไดนาคทางเข้าวัดพระธาตุจอมปิง

บันไดนาคทางเข้าวัดพระธาตุจอมปิง

วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุลำปางหลวง โดยมีระยะทางห่างกันเพียงราวๆ 10กิโลเมตรเท่านั้น ข้อดีของการมาดูเงาพระธาตุที่นี่คือ ผู้หญิงก็สามารถเข้าไปชมได้ ทางวัดไม่หวงห้ามและเนื่องจากเป็นวัดที่มีคนรู้จักน้อยกว่า นักท่องเที่ยวจึงน้อยกว่าตามไปด้วย ทำให้เราสามารถใช้เวลาในการถ่ายภาพเงาพระธาตุได้นานกว่า

ประตูไม้แกะสลักวัดพระธาตุจอมปิง

ประตูไม้แกะสลักวัดพระธาตุจอมปิง

เมื่อก้าวพ้นประตูเข้าไปก็จะพบกับวิหารหลวง และเห็นคุณลุงท่านหนึ่งกำลังดูแลต้นไม้ในวัดอยู่ คุณลุงท่านนี้ใจดีครับยิ้มแย้มแจ่มใส เคยอ่านเจอว่าชอบแนะนำเทคนิคการถ่ายเงาพระธาตุให้นักท่องเที่ยวหลายท่านเสียด้วย

พระประธานในวิหารหลวงบูรพาจารย์ 30ทัศ

พระประธานในวิหารหลวงบูรพาจารย์ 30ทัศ

ป้ายไม้ระบุชื่อวิหารหลวงบูรพาจารย์ 30ทัศ มองไปรอบๆภายในเป็นศิลปะแบบล้านนาที่สวยงามแปลกตาไปจากโบสถ์หรือวิหารภาคกลางอย่างที่ผมคุ้นเคย
วันนั้นมีกลุ่มเด็กนักเรียนตัวน้อยๆที่คุณครูพามาเยี่ยมชมวัด ผมจึงไม่ได้เข้าไปกราบพระประธานใกล้ๆ ให้เด็กๆเขาฟังคุณครูบรรยาย ส่วนผมก็อาศัยฟังคุณครูอีกที เรามาต่างถิ่นยังมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะ ฟังคุณครูบรรยายนี่แหละเข้าท่าที่สุดแล้ว ^^”
ครูและนักเรียนมาเยี่ยมชมวัด

ครูและนักเรียนมาเยี่ยมชมวัด

คุณครูบอกให้เด็กนักเรียนหันไปดูภาพนรก ก็เลยหันตาม อ้อ อยู่ด้านบนของทางเข้าวิหารนี่เอง เขียนภาพนรกเอาไว้ เตือนใจคนที่คิดทำไม่ดีครับ ถึงแม้จะแสดงออกสื่อว่าเป็นคนดีแค่ไหน แต่ตายไปรับรองว่าเรื่องกรรมชั่วโกหกยมบาลไม่ได้แน่
จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวง

จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวง

ตอนนี้เราจะปล่อยให้คุณครูสอนนักเรียนไปก่อน เดินออกมาด้านข้างเพื่อหาที่ชมเงาพระธาตุดีกว่า
อ้อนี่ไง เจอป้ายพอดีเขียนไว้ตรงหน้าสิงห์โตปูนปั้นนี่ครับ บอกว่าให้ไปทางขวา
สิงห์โตหน้าองค์พระธาตุ

สิงห์โตหน้าองค์พระธาตุ

แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปที่วิหารหลังเล็กเพื่อชมเงาพระธาตุ
ก็ต้องเก็บภาพพระธาตุองค์จริงเอาไว้ก่อนเพื่อเปรียบเทียบกับภาพเงา
องค์พระธาตุและลวดลายบนวิหารหลวง

องค์พระธาตุและลวดลายบนวิหารหลวง

เดินเข้ามาตามป้าย มองไปเห็นมีแต่ฉากวางอยู่ที่หน้าต่าง ไม่เห็นมีเงาพระธาตุ
อ้อ นึกได้ เขาต้องปิดประตูให้แสงมืดสนิทเสียก่อนภาพเงาจึงจะเกิด ว่าแล้วก็กางขาตั้งกล้อง ปรับโฟกัสรอ
พอปิดประตูภาพเงาของพระธาตุก็ปรากฏบนฉากที่วางไว้ตรงหน้าต่าง และนี่คือข้อดีของการมาชมเงาพระธาตุที่นี่ครับ
คนมาเยี่ยมชมน้อยกว่าวัดพระธาตุลำปางหลวง จึงมีเวลาให้ถ่ายภาพได้มากกว่า และยืนชมภาพเงาได้นานกว่า
เงาพระธาตุจอมปิงกลับหัว

เงาพระธาตุจอมปิงกลับหัว

เปิดประตูออกมาก็เจอบรรดาเด็กนักเรียนตัวน้อยเดินมาชมเงาวิหาร
เราจึงออกไปหามุมถ่ายภาพอื่นๆ ถ่ายภาพวิหารหลวงเก็บไว้ สังเกตุเห็นบางสิ่งอยู่บนหลังคาวิหาร
หลังคาวิหารหลวง

หลังคาวิหารหลวง

ซูมเข้าไป ก็พบว่าเป็นรูปปั้นเทพ ไม่ทราบว่ามีความหมายพิเศษอย่างไร
รูปปั้นเทพบนหลังคาวิหาร

รูปปั้นเทพบนหลังคาวิหาร

กำลังจะกลับไปที่รถ ก็สังเหตุเห็นบันไดนาคที่มีตัวมกรกำลังทำท่าจะกินนาคเข้าไป
ซึ่งก็มาเสิร์ชหาทีหลังจึงรู้ว่าเป็น มกรที่กำลังคายนาค ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่นิยมในถิ่นล้านนา
มกรคายนาคที่บันไดนาคทางเข้าวัด

มกรคายนาคที่บันไดนาคทางเข้าวัด

การเดินทาง
พิกัด GPS N18.0958, E99.3403, Google map
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธินผ่านจังหวัดตากไปจนถึงสบปราบ แล้วขับต่อไปอีกราวๆ 25กิโลเมตร
เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 1002 ข้ามแม่น้ำวังแล้วเลี้ยวซ้าย ขับต่อมาอีก 2 กิโลเมตรก็จะพบกับวัดพระธาตุจอมปิง
แผนที่วัดพระธาตุจอมปิง

แผนที่วัดพระธาตุจอมปิง

ฝากข้อความคุยกับเราได้ที่นี่ครับ =^_^=