ไปลำปาง-อ่างขาง-เชียงใหม่ เลยจับมาทำ OPV ซะเลย ^^

วันที่ 12 – 17 กันยายน 2556
มีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองเหนือ เยือนถิ่นล้านนา ถ่ายรูปมาก็เยอะ
กะว่าจะเอามาทำเป็นบล็อก ก็ทำไปได้แค่ 3-4 บล็อก เยอะมากจนทำไม่ไหว
เอาไงดี คิดไปคิดมา ไปเจอเพลงของคุณเจี้ยบ วรรธณา ก็เอามาประกอบเพลงทำ OPV เล่นๆดู

อยากจะบอกว่า โครงการหลวงดอยอ่างขางสวยมาก เมืองเหนือก็สวยมากทั้งลำปางและเชียงใหม่ อยากชวนให้ไปเที่ยวกันครับ

 

 

สำหรับทริปที่ผมไปมานี้ ผมได้นำสถานที่ต่างๆในลำปางมาทำบล็อกไปแล้ว 4 แห่งครับ

  1. วัดศรีชุม-ลำปาง วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
  2. หอปูมละกอน พิพิธภัณท์ที่เล่าเรื่องความเป็นมาของเมืองลำปาง
  3. เงาพระธาตุกลับหัวอีกแห่งที่วัดพระธาตุจอมปิง
  4. ไหว้พระธาตุปีฉลูดูเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง

 

วัดศรีชุม-ลำปาง วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

12 กันยายน 2556

วันนี้พวกเราขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงเมืองลำปางเร็วกว่าที่คิดไว้มาก เราจึงขับรถตระเวณเมืองลำปาง พอกางแผนที่ที่ได้รับมาจากศูนย์ท่องเที่ยวลำปางก็พบว่าในเมืองลำปางนี้ น่าจะมาแวะที่วัดศรีชุมเสียก่อนเพราะใกล้จุดที่เราพัก ไม่รอช้าคิดได้แล้วก็เลี้ยวรถไปตามแผนที่ ไม่ถึง 10นาทีก็มาถึงวัดศรีชุม

ในบรรดาวัดพม่าที่มีอยู่ในประเทศไทย 31 วัดนั้น วัดศรีชุมเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุด สร้างในปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีพม่าชื่อ อูโย ซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทย เมื่อตนเองมีฐานะดีขึ้นจึงต้องการทำบุญโดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นในตำบลสวนดอก ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการบูรณะวัดที่มีอยู่เดิม เพราะเดิมนั้นวัดศรีชุมก็เคยเป็นวัดมาก่อน แต่เป็นวัดเล็กๆมีเพียงศาลา บ่อน้ำ และต้นโพธิ์เท่านั้น

วัดศรีชุม

วัดศรีชุม

อ่านเพิ่มเติม

พุทธมณฑล หอพระไตรปิฎกหินอ่อน

บล้อกนี้เขียนขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2551
วันนี้ได้นำมาย้ายที่วางเว็บใหม่เพื่อความสวยงามของบล้อกครับ

หลังจากที่ไปแวะ ตลาดธนบุรี(สนามหลวง 2) ใน blog ที่แล้ว จะกลับบ้านเลยมันก็ผิดธรรมเนียมโบราณต้องไปหาที่ถ่ายรูปต่อ และไหนๆก็มาถึงพุทธมณฑลสาย3 แล้ว แวะไปที่พุทธมณฑลเสียเลยจะดีกว่า แดดจัดๆแบบนี้ ภาพน่าจะออกมาแสบตาพิลึก ^_^

อ่านเพิ่มเติม

เงาพระธาตุกลับหัวอีกแห่งที่วัดพระธาตุจอมปิง

12 กันยายน 2556
หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องเงาพระธาตุกลับหัว ที่ปรากฏในวิหารหลังเล็ก(ซุ้มพระบาท)ของวัดพระธาตุลำปางหลวงมาบ้างแล้ว ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าเป็นการหักเหของแสงผ่านช่องเล็กๆหลักการเดียวกับกล้องรูเข็ม และหลายคนก็เข้าใจว่าเงาพระธาตุกลับหัวมีที่วัดพระธาตุลำปางหลวงเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ยังมีอีกหลายวัดที่มีปรากฏการณ์เงาพระธาตุกลับหัวครับ และวัดพระธาตุจอมปิงก็เป็นหนึ่งในวัดที่มีเงาพระธาตุกลับหัวเช่นกัน และยังไม่หวงห้ามคุณสุภาพสตรีเข้าชมอีกด้วย
บันไดนาคทางเข้าวัดพระธาตุจอมปิง

บันไดนาคทางเข้าวัดพระธาตุจอมปิง

อ่านเพิ่มเติม

ไหว้พระธาตุปีฉลูดูเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง

12-SEP-2013 นักท่องเที่ยวทุกคนที่มีโอกาสมาเยือนลำปาง สถานที่แรกที่มักจะนึกถึงก็คือวัดพระธาตุลำปางหลวง เนื่องจากวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นวัดที่เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แสดงความเป็นล้านนาอย่างเด่นชัดที่สุดวัดหนึ่ง องค์พระธาตุ(ที่ชาวภาคกลางเรียกเจดีย์)ก็ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีฉลู และนอกจากนั้น ยังมีเงาพระธาตุในซุ้มพระบาท เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ให้ได้ชมกันอีกด้วย
วัดพระธาตุลำปางหลวง

บันไดนาคทางเข้าวัดพระธาตุลำปางหลวง

อ่านเพิ่มเติม

วัดเกศไชโย (วัดไชโยวรวิหาร)

วันนี้ (๒๓ ก.ค. ๒๕๕๔) เกิดอารมณ์อยากขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็เลยขับมาถึงอ่างทอง ถือโอกาสนมัสการหลวงพ่อโต และสมเด็จพระพุฒาจารย์โตฯ
ที่วัดเกษไชโยเสียเลยป้ายประวัติและข้อมูลของวัดเกษไชโย

เที่ยวไทย เที่ยววัด วัดเกษไชโย วัดไชโยวรวิหาร หลวงพ่อโต สมเด็จพระพุฒาจารย์โต

พาเที่ยววัดในกรุงเทพฯ (๖) – วัดอรุณราชวราราม

บล้อกนี้เขียนเอาไว้เมื่อเดือน พฤศจิกายน ปี 2008
ออกจากวัดกัลยาณมิตร ขี่แมงกะไซค์คู่ใจมาตามถนนอรุณ-อมรินทร์ไม่นานนัก ผมก็มาถึงวัดอรุณฯครับ สำหรับวัดนี้ เป็นวัดหลวงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาดูประวัติจาก http://th.wikipedia.org สักนิดนะครับ
[ประวัติ]
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารวัดอรุณราชวรารามเป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา
ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา
เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกันแต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่
ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลอง
บางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้นเชื่อกันว่า
เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้
ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน
วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังที่ประทับนั้น ทรงเอาป้อมวิชัยประสิทธิ์
ข้างฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งตัวพระราชวัง แล้วขยายเขตพระราชฐานจนวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวัง
เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์สมัยอยุธยา และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์
ใน พ.ศ. 2322 ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามใน พ.ศ. 2327

ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด
แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา
และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม” ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น
แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้น
และให้ยืมมงกุฎที่หล่อสำหรับพระพุทธรูปทรงเครื่องที่จะเป็นพระประธานวัดนางนองมาติดต่อบนยอดนภศูล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ
และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธาน
ในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”

เอารถไปจอดแอบข้างกุฏิพระเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าชมความงามในวัดกันเลยครับ

พูดถึงวัดอรุณฯก็ต้องมาดูพระปรางค์วัดอรุณสิครับ ก่อนจะเดินขึ้นก็พบกับอาแปะใจดียืนยิ้มอยู่หน้าพระปรางค์
ผมเลยขอถ่ายรูปสัก 1 รูปครับ อาแปะน่าจะยืนเฝ้าพระปรางค์ยิ้มต้อนรับทุกคนที่เข้ามาที่นี่มานานแล้ว

อ่านเพิ่มเติม

ขับรถเลียบชายโขงวันที่ ๑ กรุงเทพฯ-หล่มสัก-ด่านซ้าย-ท่าลี่-เชียงคาน

บล้อกนี้เขียนขึ้นตั้งแต่วันที่ [2010-02-16]

วันหนึ่งนานมาแล้ว หลังจากที่ผมเปิดหนังสือแผนที่ประเทศไทยดูเส้นทางต่างๆเล่น (เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของผม)
ก็ต้องมาสะดุดตากับทางเส้นหนึ่ง ที่เลียบชายแดนไทยลาว โดยเริ่มจาก อ.ท่าลี่ เลียบแม่น้ำเหือง เรื่อยไปจนถึงเชียงคาน
สถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังแห่งใหม่ ผ่าน อ.ศรีเชียงใหม่ ที่อยู่คนละฟากแม่น้ำกับเมืองเวียงจันทร์ ของสปป.ลาว
และถ้าตามถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเลียบแม่น้ำโขงไปได้จนถึงโขงเจียม จ.อุบลราชธานี

แค่คิดว่าจะขับรถเลียบแม่น้ำโขงไปตามถนนเส้นนี้ก็สนุกแล้ว ก็เลยเก็บเป็นโปรเจ็คในใจเรื่อยมา
จนถึงปีนี้ก็มีโอกาสเหมาะ ลาหยุดงานได้ถึง 4 วันติดๆกัน รวมเสาร์ อาทิตย์ ก็ 6 วันพอดี

ทริปนี้ เริ่มจากบ้านเจริญนคร ขับรถขึ้นสระบุรีโดยใช้เส้น ราชพฤกษ์ แวะเอาลูกๆสี่ขาทั้งสองตัวไปฝากคุณแม่ที่บางใหญ่
แล้วขับขึ้นต่อไปตามถนนกาญจนาภิเษก – พหลโยธิน ตรงไปสระบุรี – ลพบุรี อ.ชัยบาดาล – เพชรบูรณ์ อ.หล่มสัก
แวะทานขนมจีน อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ แล้วตรงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง อ.ด่านซ้าย จ.เลย (แผนที่เส้นทางอยู่ข้างล่างครับ)

ที่นี่ เราพักรถเพื่อสักการะพระธาตุศรีสองรัก พระธาตุที่เป็นพยานของมิตรภาพไทย-ลาว สมัยอยุธยา

พระธาตุศรีสองรัก ด่านซ้าย

มาถึงที่นี่ก็เกือบบ่าย แดดแรงมาก

อ่านเพิ่มเติม

วัดหนองแวง-พระมหาธาตุแก่นนคร

บล้อกนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่ [2010-02-19]
จากบล็อกที่แล้ว เริ่มจากขับรถเลียบแม่น้ำเหืองไปจรดแม่น้ำโขงที่เชียงคาน
แล้วเลาะเลียบโขงมาเรื่อยๆจนถึงหนองคาย ผ่านอำเภอบึงกาฬ (ตอนนั้นยังเป็นอำเภอครับ)
ไปจนถึงนครพนม ไหว้พระธาตุเรณูนครและพระธาตุพนม แล้วขับเลียบโขงต่อไปถึงมุกดาหาร
จึงได้อำลาแม่น้ำโขง ตัดกลับมาดูไดโนเสาร์ที่ อ.สหัสขัณธ์ จ.กาฬสินธุ์ แต่ทริปมันยังไม่จบเท่านั้นสิครับ
เป้าหมายต่อมาก็คือ จ.ขอนแก่น ตั้งใจว่าจะไปกราบพระธาตุหนองแวงและไปดูไดโนเสาร์อีกแห่งหนึ่งที่ภูเวียง

ท่องเที่ยวทั่วไทย ขอนแก่น พระธาตุหนองแวง

อ่านเพิ่มเติม

ไปหัวหินแวะวัดห้วยมงคลก่อนกลับเพื่อความเป็นสิริมงคลครับ

บล็อกนี้เขียนขึ้นเมื่อ 18 มีนาคม 2553

วัดห้วยมงคล

หลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล


เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วยมงคล

อ่านเพิ่มเติม