ใกล้กันนั้น มองจากยอดโลหะปราสาท จะเห็นเจดีย์ภูเขาทองตระหง่านอยู่
มองดูในแผนที่แล้วไม่ไกลกันเลย ไม่รอช้า ร่อนแมงกะไซไปต่อทันที
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ
ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน
เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๓๒๕
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้าง
พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง
แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
เห็นป้ายบอกทางก็เลี้ยวมอร์เตอร์ไซค์เข้าจอดใกล้ๆกับทางขึ้น
พบกับความร่มรื่นด้วยมีไม้ใหญ่ปลูกโดยรอบบริเวณ
วัดนี้ก็เช่นกัน เป็นอีกวัดที่ผมได้แต่ผ่านไปผ่านมา
ไม่เคยได้มาแวะชมความงดงามเลย สงสัยว่าต้องลิสต์รายชื่อ
สถานที่ที่อยู่ในกรุง แต่ไม่เคยได้ไปแวะเยี่ยมเยียนหรือนมัสการ
จากนั้นก็จะค่อยๆไล่ไปเรื่อยๆ ทีละแห่ง จนครบ น่าจะดี ^^
เอาละ มาว่ากันต่อที่ภูเขาทองนะครับ
ในช่วงวันลอยกระทง ของทุกปี ทางวัดจะจัดงานประเพณี
เป็นประจำ ก็คงน่าจะเป็นอันเดียวกันกับที่เราเคยได้ยินจนคุ้นหู
ว่า “งานวัดภูเขาทอง” นั่นเอง
น้ำตกที่ประดับอยู่ตรงทางขึ้น
หินสลักไว้ให้ทราบโดยทั่วกันว่าเป็น Golden Mountain (ภูเขาทอง)
แปลกันตรงๆตัวแบบนี้เลยครับ ^^
จำลองขนาดเล็กไว้ตรงทางขึ้น ให้เห็นพระบรมบรรพตกันแบบชัดๆทั่วทั้งองค์
ทางขึ้นแขวนระฆัง ที่แต่ละใบก็จะมีจารึกเหมือนเป็นบทสวดมนต์ที่ข้างระฆัง
บันไดทางขึ้น จริงๆแล้วมีบันไดแห่ง ทางขึ้นลง คนละทางกัน
มุมนี้ดูเหมือนจะเป็นร้านกาแฟ แลดูน่านั่งไม่น้อย
กรุงเทพฯ มองจากพระบรมบรรพต
พระบรมสารีริกธาตุ
อันนี้อยู่ข้างๆองค์พระเจดีย์ เขียนว่า สะดือเมือง
ไม่ทราบเหมือนกันครับว่ามีความสำคัญอย่างไร ได้แต่ถ่ายภาพมาให้ชมกัน
องค์พระเจดีย์บนยอดพระบรมบรรพต
พอดีได้ข่าวว่าจะมีงานวัดภูเขาทองเร็วๆนี้
ผมจะแว้บไปถ่ายภาพมาลงเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้ครับ
บล้อคต่อเนื่อง: งานประจำปีภูเขาทอง